Support
www.dhcdeeka.com
081-565-9174
Your shopping cart
ดูตะกร้าสินค้าของคุณ
ไม่มีสินค้าในตะกร้าของคุณ

ไฮยาลูรอนและคอลลาเจนต่างกันไฉนเอ๋ยยย

DHCdeeka_admin | 14-06-2553 | เปิดดู 26098 | ความคิดเห็น 0

ความแตกต่างระหว่างกรดไฮยาลูรอนและคอลลาเจนต่างกันไฉนเอ๋ยยย  มาดูกันเรย
กรดไฮยาลูรอนิค หรือ Hyaluronic Acid หรือ HA
คนส่วนใหญ่
แล้วเวลาที่นึกถึงสาเหตุถึงความชรา ความหย่อนยานของผิว ริ้วรอยที่ปรากฏขึ้น หรือผิวที่ขาดความชุ่มชื่น มักจะคิดถึงแต่ collagen, elastin และการแสดงอารมณ์บนผิวหน้าอย่างสุดซึ้งไปเท่านั้น

แต่ยังลืมนึกไปว่า สิ่งที่สำคัญมากอีกตัวหนึ่งนั้นก็คือ กรดไฮยาลูรอนิค นั่นเอง .. มันคือกรดที่ร่างกายของเราผลิตขึ้นมา มีอยู่ทั่วไปตามร่างกาย และโดยเฉพาะบริเวณจุดเชื่อมต่อระหว่างอวัยวะและเซลล์ เพื่อเพิ่มความต้านทานต่อการเสียดสีและเพิ่มความยืดหยุ่น เช่นจุดเชื่อมต่อบริเวณหัวเข่า

ถ้าขาดสารตัวนี้ จะมีผลทำให้การเดินเจ็บปวดเพราะว่าไม่มีตัวช่วยลดการเสียดสีระหว่างกระดูกข้อต่อนั่นเอง และมันยังถูกใช้ในวงการแพทย์อีกด้วยนะ เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยที่มีปัญหาเกี่ยวกับข้อต่ออีกด้วย งานนี้ประโยชน์กว้างขวางเลย

ประโยชน์ของ กรดไฮยาลูรอนิค ที่มีต่อผิวหน้า

แต่สำหรับผิวหน้าของเรานั้น กรดตัวนี้จะถูกผลิตขึ้นและถูกหล่อเลี้ยงจากบริเวณผิวหนังชั้น dermis (ผิวชั้นล่าง) และกระจายไปถึงผิวหนังชั้น epidermis (ผิวหนังชั้นบน) บทบาทสำคัญที่เราควรตระหนักก็คือ มันจะช่วยให้ผิวหนังสามารถเก็บกักความชุ่มชื่นได้มากกว่าปรกติหลายเท่าเลยล่ะ (โดยที่ไม่เพิ่มความมันแบบที่ไม่ดี sebum บนผิวชั้นนอก ดังนั้นคนที่มีผิวมันก็สบายใจขึ้นมาบ้าง)

เมื่อผิวมีความชุ่มชื่นที่ดีเพียงพอ ผิวหน้าก็จะดูอ่อนกว่าเยาว์ ดูเนียนเรียบขึ้น ริ้วรอยลดลง มีความยืดหยุ่น นุ่มนวล และดูมีชีวิตชีวา ..

กรดไฮยาลูรอนิคยังช่วยให้รักษาอาการบาดเจ็บของเซลล์ผิวหนังได้เร็วกว่าเดิม 80% อีกด้วย นั่นหมายความว่าผิวสามารถที่จะสมานและฟื้นฟูตัวเองได้เร็วขึ้น ผลดีอีกข้อนั่นก็คือการช่วยทำให้ผิวดูเต่งตึงขึ้นด้วย (plump effect) และโดยปรกติการไหลเวียนของเลือดจะเป็นตัวนำของเสียออกจากเซลล์ตามธรรมชาติ แต่สำหรับเซลล์ผิวที่ไม่ได้ติดต่อกับเส้นเลือดโดยตรง กรดไฮยาลูรอนิคนั้นจะช่วยเพิ่มการนำสารอาหารเข้าสู่เซลล์ผิวในส่วนนั้น และยังช่วยกำจัดของเสียออกจากเซลล์เหล่านั้น

แต่เมื่ออายุมากขึ้น ตั้งแต่ 30-40 ขึ้นไป การผลิตกรดไฮยาลูรอนิคตามธรรมชาติก็ลดน้อยลงไปด้วยค่ะ ผลก็คือผิวที่จะสูญเสียความชุ่มชื่น ผิวแห้งขึ้น และขาดความยืดหยุ่น สิ่งที่จะตามมาไม่ช้านั่นก็คือ ริ้วรอยที่จะเพิ่มมากขึ้น และความแก่ชราก็จะปรากฏชัดขึ้นนั่นเอง ดังนั้นการใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีส่วนผสมของกรดไฮยาลูรอนิคสำหรับผู้ที่มีอายุมากขึ้นหรือผู้ที่มีผิวแห้ง ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง นอกเหนือไปจากการบำรุงและเสริมสร้างแต่เพียง collagen – elastin และลดริ้วรอยแค่พื้นผิวภายนอกตามปรกตินะ


แล้วคอลลาเจนล่ะคืออะไร ต่างกับไฮยาลูรอนยังไง?
คอลลาเจนคือ โปรตีนชนิดหนึ่งที่อยู่ใต้ชั้นหนังแท้โปรตีนแห่งความงามที่ว่านี้ มีชื่อเรียกว่า คอลลาเจนโปรตีนเป็นโปรตีนสำคัญของผิวหนัง เพราะเป็นส่วนสปริงของผิวหนังในการสร้างความตึงให้กับผิวหนังชั้นหนังแท้

หากอยากลองสัมผัสความตึงของคอลลาเจนโปรตีน ลองจับแก้มเด็กตัวเล็ก ๆ ดูจะสัมผัสได้ทันที ถึงความใส ตึง ที่ผิวแก้ม หรือดูเด็กวัยรุ่นที่กำลังแตกเนื้อหนุ่มสาว จะเห็นว่าผิวพรรณตึงเปรี๊ยะทีเดียว

ปัจจุบันนี้จะมีการพูดถึง คอลลาเจน กันอย่างกว้างขวางในวงการเครื่องสำอาง และความงาม

คอลลาเจนเป็นภาษากรีก แปลว่า กาวทำหน้าที่เป็นกาวเชื่อมเซลล์แต่ล่ะเซลล์เข้าด้วยกัน คอลลาเจนโปรตีนมีปริมาณมากถึง 1 ใน 3 ของโปรตีนในร่างกาย คอลลาเจนใต้ผิวหนังของเรา จะอยู่ในผิวหนังชั้นหนังแท้คอลลาเจนทำหน้าที่เสริมความเรียบตึงของผิวหนัง ทำให้ผิวแข็งแรง และเรียบเนียนและอยู่คู่กับโปรตีนที่สำคัญอีกชนิดหนึ่งคือ "อีลาสติน"

ในขณะที่คอลลาเจนมีหน้าที่เสมือนโครงสร้างของผิว และทำให้ผิวเต่งตึง อีลาสตินจะมีหน้าที่สร้างความยืดหยุ่นให้กับผิวและทำให้ผิวไม่มีริ้วรอย 

น่าเสียดายที่ภายหลังอายุ 20 ปี คอลลาเจนโปรตีนจะเสื่อมสภาพลง ทำให้ชั้นผิวหนังมีการยุบตัวลงต้นเหตุของความเหี่ยวย่น ริ้วรอย และความชราของผิวพรรณ ริ้วรอยแรกจะเป็นรอยตีนกาเพราะผิวหนังรอบดวงตา มีความบอบบางมากอีกทั้งกล้ามเนื้อรอบดวงตาก็เป็นกล้ามเนื้อวงกลม ไม่มีอะไรยึดผิวรอบดวงตาก็เลยจะเหี่ยวง่ายกว่าที่อื่น

การรับประทานคอลลาเจนโปรตีนจะช่วยชะลอความเหี่ยวตรงนี้ และลดริ้วรอยที่เกิดขึ้นแล้วได้ คอลลาเจนมีคุณสมบัติทำให้กล้ามเนื้อกระชับไม่หย่อนยาน ผิวหนังไม่เหี่ยวย่น อีกทั้งยังบำรุงเล็บและเส้นผมให้มีสุขภาพดีอีกด้วย

การเสริมสร้างคอลลาเจนด้วยการรับประทาน
มีการนำสารสกัดโปรตีนจากปลาทะเลบางประเภทซึ่งมีโครงสร้างโมเลกุลคล้ายกับโครงสร้างของคอลลาเจนของผิวคน โดยวิธีการ (Enzymatic Hydrolysis) มาทำเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร

แล้วพบว่าภายหลังการรับประทานไประยะหนึ่งจะสามารถช่วยเสริมสร้างคอลลาเจน และช่วยให้ริ้วรอยต่าง ๆ จางหายการนำสารสกัดโปรตีนคอลลาเจน เข้าสู่ร่างกายเพื่อผลในการบำรุงผิว และลดริ้วรอยนั้นปกติทำได้ 2 วิธีคือ

โดยการรับประทานในรูปแบบผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร หรือโดนการฉีดเข้าใต้ผิวหนังชั้นหนังแท้ วิธีการรับประทานจึงเป็นวิธีการที่สะดวกกว่าผลที่ได้รับจากการบริโภคคอลลาเจนอย่างต่อเนื่องจะช่วยในการสร้างเนื้อเยื่อคอลลาเจนใต้ผิวหนังลดริ้วรอยเหี่ยวย่นของผิวหนังอย่างได้ผล และทำให้ผิวมีความชุ่มชื้นนุ่มเนียนขึ้น

คอลลาเจนโปรตีน เป็นโปรตีนที่มีโครงสร้างโมเลกุลใหญ่มากดังนั้นคอลลาเจนไม่สามารถซึมผ่านผิวหนังได้ด้วยการทา ส่วนครีมต่าง ๆที่มีขายตามท้องตลาด ที่มีส่วนผสมของคอลลาเจนก็จะเป็นการผลักคอลลาเจนให้อยู่ได้แค่ชั้นหนังกำพร้าแต่เนื่องจากคอลลาเจนมีคุณสมบัติอุ้มน้ำได้ประมาณ 30 เท่าของน้ำหนักตัวมันทำให้ผิวหนังกำพร้าชุ่มชื้นขึ้น แต่ไม่สามรถแก้ไขปัญหาริ้วรอยได้อย่างแท้จริงเพราะการเสริมสร้างคอลลาเจน จะต้องเข้าสู่ด้วยการฉีดเข้าใต้ผิวหนังและการรับประทานเท่านั้น

การใช้คอลลาเจน
ระยะเวลาเห็นผล 30 - 60 วัน
ริ้วรอยตื้นขึ้น 50%
ผิวที่หย่อนยานกระชับขึ้น 60%
ผิวชุ่มชื้นมากขึ้น 45% ผม และ เล็บ แข็งแรง และ หนาขึ้น


ประโยชน์ของคอลลาเจน
คอลลาเจน มีส่วนช่วยในการป้องกันอวัยวะในร่างกาย และเชื่อมอวัยวะต่างๆ ให้อยู่ด้วยกัน ช่วยให้โครงสร้างของร่างกายแข็งแรง และยืดหยุ่นดี ช่วยให้ข้อต่อต่างๆ ขยับเคลื่อนไหวไปมาไม่ติดขัด โดยเฉพาะข้อต่อในการรับน้ำหนักและขยับเคลื่อนไหวในอิริยาบถต่างๆ เช่นเดินหรือวิ่ง เป็นต้น

นอกจากนี้ คอลลาเจน ยังเป็นตัวช่วยให้ผิวพรรณเกิดความชุ่มชื้น เสริมความเรียบตึงให้กับผิวหนัง ทำให้ผิวดูเรียบเนียนกระชับ โดยทำงานคู่กับโปรตีนอีกชนิดหนึ่งที่ชื่อ อีลาสติน ” ( Elastin )

ในขณะที่ คอลลาเจน มีหน้าที่เสมือนโครงร่างผิว อีลาสติน ก็ทำหน้าที่ให้ความยืดหยุ่นแก่ผิว ควบคู่กันไปด้วย ร่างกายของคนเรานั้นจะมี คอลลาเจน หนาแน่นในวัยเด็ก และจะค่อยๆ เสื่อมสภาพลงตามกาลเวลา จึงเห็นได้ว่าเมื่ออายุมากขึ้น เส้นใยคอลลาเจน เหล่านี้จะเสื่อมสลาย ทำให้ชั้นผิวหนังยุบตัวลงอันเป็นสาเหตุของความเหี่ยวย่นและริ้วรอย รวมถึงการเกิด ปัญหาข้อเสื่อม กระดูกเสื่อม อันเนื่องมาจาก คอลลาเจน ใน กระดูก ลดลง ทำให้ กระดูก ไม่สามารถรับน้ำหนักได้ ขาดความยืดหยุ่น เปราะหักง่าย เป็นต้น โดยพบว่าคนที่มีอายุ 25 ขึ้นไป จะมีปริมาณ คอลลาเจน ลดลงทุกปี ปีละ 1.5% อย่างไรก็ตาม เราสามารถเสริมสร้าง คอลลาเจน ให้ร่างกายได้ ด้วยการฉีด คอลลาเจน เข้าใต้ชั้นผิวหนังแท้ และอีกวิธีที่ง่ายและสะดวกคือ การรับประทาน

สรุปคอลลาเจนจะมีส่วนช่วยในเรื่อง
ผิวพรรณ
- ฟื้นฟูสุขภาพผิว เพื่อความยืดหยุ่น และความชุ่มชื่นของผิว - ทำให้ผิวพรรณขาวใส และเติมร่องลึก ช่วยให้ ฝ้า , กระ จางลง - คืนความอ่อนเยาว์ ในเวลาอันรวดเร็ว - ยับยั้งการเกิดรอยเหี่ยวย่น บำรุงผิวให้เนียนนุ่ม
กระดูก
- เพิ่มสารอาหารประเภท แคลเซียม ป้องกันโรคกระดูกพรุน , เสริมสร้างให้กระดูกแข็งแรง เม็ดเลือด
- เป็นตัวกระตุ้นให้เกิดการสร้างเส้นเลือด , เม็ดเลือด และเนื้อเยื่อ อื่น ๆ
- บำรุงสุขภาพผม , เล็บ , สายตา , และรักษาความผิดปรกติของเส้นประสาท



 

 

ความคิดเห็น

วันที่: Sun May 05 22:03:39 ICT 2024

แสดงความคิดเห็น
All Comments: 0 Pages: 1/0