น้ำมันรำข้าว ในสมัยกลาง (The Middle Age) เริ่มในคริสต์ศตวรรษที่ 5 เมื่อจักรพรรดิโรมิวลุส
ออกุสตุลุส(Romulus Augustulus)เเห่งจักรวรรดิโรมันตะวันตกถูกปลดออกจากตำแหน่งใน
ค.ศ.476 พวกอนารยชนผู้รุกรานได้เข้ามายึดครองกรุงโรม ปและตั้งถิ่นฐานกระจายอยู่ตาม
ดินแดนต่างๆ ที่เคยเป็นจักรวรรดิโรมันอันยิ่งใหญ่ประวัติศาสตร์สมัยกลาง โดยทั่วไปถือว่า
สิ้นสุดลงในคริสต์ศตวรรษที่ 15เมื่อจักรวรรดิโรมันตะวันออกหรือจักรวรรดิไบKเซนไตน์ซึ่ง
มีเมืองหลวงอยู่ที่กรุงคอนสเเตนติโนเปิลถูกพวกออตโตมานเตอร์ก (OttomanTurk)
เข้ายึดครองใน ค.ศ. 1453
การวางรากฐานอารยธรรมยุโรป
สภาพสังคมยุโรปในสมัยกลางตอนต้นเปลี่ยนแปลงไปมากนับตั้งแต่พวกอนารยชน
ยึดกรุงโรมทั้งนี้เนื่องจากพวกอนารยชนไม่คุ้นเคยกับการมีชีวีตอยู่ในเมือง จึงไม่ได้ให้ความ
สำคัญกับการทำนุบำรุงรักษาสาธารณูปโภคต่างๆ ที่ชาวโรมันสร้างไว้ ทำให้ถนนหนทาง
สะพานคลองท่อลำเลียงน้ำชำรุด[สียหายในขณะที่ประชาชนก็หวาดกลัวภัยจากการรุกราน
ของพวกอนารยชน และจากการปล้นสะดมของโจรผู้ร้าย มีผลทำให้ความเจริญทางด้าน
ศิลปวิทยา การ หยุดชะงัก
จากสภาพดังกล่าวจึงมีผู้ให้สมญาสมัยกลางของยุโรปว่าเป็นยุคมืด(DarkAgc)ซึ่ง
หมายความว่า เป็นยุคที่มืดมนทางอารยธรรม ทั้งนี้เพราะมีความเชื่อว่า สมัยที่ยิ่งใหญู่
ของมนุษยชาติ คือ สมัยอารยธรรมกรีก-โรมัน ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นอารยธรรมคลาสสิค และสมัย
ฟื้นฟูศิลปวิทยาการในคริสต์ศตวรรษที่5 ยุคที่คั่นอยู่ระหว่างยุคที่ยิ่งใหญ่ทั้ง 2 จึงด้อย
ความเจริญกว่ายุคที่มีมาก่อนและยุคที่ตามมาในภายหลัง
อย่างไรก็ตาม้ มี่อมีการศึกษาประวัติศาสตร์ยุโรปโดยอาศัยศาสตร์เเขนงอื่นๆ นอก
เหนือจากเอกสาร เช่นศึกษาจากโบราณวัตถุและวิธีการทางโบราณคดีทำให้เข้าใจสมัยกลาง
ได้ดีขึ้น ปัจจุบันเป็นที่ยอมรับว่า คนในสมัยกลางได้ทิ้งมรดกทางวัฒนธรรมที่สำคัญูให้แก่
คนรุ่นหลังทัดเทียมกับสมัยอื่นๆเช่นกันกล่าวได้ว่าสมัยกลางเป็นสมัยที่มีการก่อสร้างสถาบัน
ต่างๆ ของระบบการเมือง น้ำมันรำข้าว การปกครอง เศรษฐกิจ สังคมและเเนวคิดของยุโรป ซึ่งได้เป็น
รากฐานในการก่อตั้งรัฐชาติต่างๆ ในยุโรปสมัยใหม่อาจกล่าวไว้ว่า การเริ่มต้นสมัยกลาง
โดยเฉพาะตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 9 เป็นต้นไปเป็นสัญูลักษณ์แห่งการเกิดของยุโรป
เป็นช่วงเวลาที่วัฒนธรรมของยุโรปตะวันตกเริ่มต้นปรากฏตัว
วันที่: Mon Jun 09 10:58:39 ICT 2025
|
|
|