Power Jet" Fuel Injection Cleaner.

Eliminates clogged fuel injectors in both late model passenger cars and all types of diesel vehicles. Special Twin Applicator eliminates incorrect dosage and ensures rapid, "as new" drive ability.

Omega 992
 

OMEGA 992 Power jet 

   ฟื้นฟูอัตราการเร่งของเครื่องยนต์โดย ขจัดสารก่อคราบที่ครีบหัวฉีดOMEGA 992 “เพาเวอร์เจ็ท” จะขับเอาสารก่อตัวออกและพาเข้าสู่ห้องเผาไหม้ของเครื่องยนต์ เพื่อให้เกิดการจุดระเบิด และเผาทิ้ง เหลือไว้เพียงหัวฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงที่สะอาด สามารถฉีดละอองน้ำมันน้ำมันเชื้อเพลิงได้ถูกต้องและแม่นยำฟื้นฟูอัตราการเร่งของเครื่องยนต์

 

 

 

เหนือชั้นกว่า !!!! ( เร่งไม่ขึ้น..อืด )

ควบคุมการเกิด “ไอน้ำกั้น (Vapors-Lock)”หรือมีน้ำปนมาในระบบน้ำมันเชื้อเพลิงที่เป็นสาเหตุของการสตาร์ทติดยาก รอบเดินเบาเครื่องจะสั่น และการตอบสนองการเร่งที่เฉื่อยประหยัดกว่า 15-20  เท่า !!!! ปริมาณการใช้  15 -30 ml ต่อน้ำมันเต็มถัง หนึ่งขวดโอเมก้า 992  ใช้ได้ 20 -30 ถังน้ำมันเชื้อเพลิง

 

 

 

  OMEGA 992“เพาเวอร์ เจ็ท”  สารเพิ่มกำลังของหัวฉีดน้ำมันเชื้อเพลิง ที่ใช้เติมได้ทั้งในน้ำมันดีเซล และเบนซินในรถยนต์ด้วยการเติมลงไปในถังแล้วเติมน้ำมันให้เต็ม มันถูกออกแบบ และผลิตมาเพื่อคืนสภาพของประสิทธิภาพ ของหัวฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงอย่างรวดเร็วให้มีสมรรถนะสูงเหมือนใหม่ยิ่งไปกว่านั้น OMEGA 992 ยังช่วยควบคุมการเกิด “ไอน้ำกั้น ( Vapour Lock)” หรือ มีน้ำปนมาในระบบน้ำมันเชื้อเพลิง ที่เป็นสาเหตุของการสตาร์ทติดยาก และในรอบเดินเบาเครื่องจะสั่น และการตอบสนองการเร่งที่เฉื่อย ( เร่งไม่ขึ้นอืด ) ประโยชน์เพิ่มเติมของ OMEGA 992 คือเริ่มการทำงานตั้งแต่ถังน้ำมันเชื้อเพลิงโดยมีสารยับยั้งการเกิดออกซิเดชั่นที่จะช่วยปกป้องถังน้ำมันเชื้อเพลิง ท่อส่งน้ำมันเชื้อเพลิง ปั๊มน้ำมันเชื้อเพลิง หัวฉีดน้ำมันเชื้อเพลิง และชิ้นส่วนภายในทั้งหมดของระบบหัวฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงของเครื่องยนต์จากการเกิดสนิม  ( จากความชื้น )

 

การทิ้งให้เย็นตัวลงเอง ( Soak Down ):

แม้ว่าหัวฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงจะถูกรักษาให้มีอุณหภูมิต่ำในขณะที่เครื่องยนต์ทำงานแต่ความร้อนจากการทิ้งให้เย็นตัวลงเองจากการดับเครื่องยนต์

 

จะทำให้เกิดการก่อตัวของตะกอนน้ำมันเชื้อเพลิงขึ้นในหัวฉีดน้ำมันเชื้อเพลิง สารก่อตัวเหล่านี้จะขัดขวาง และลดการแตกตัวของละอองที่เหมาะสม

 

ของน้ำมันเชื้อเพลิงที่เข้าสู่ห้องเผาไหม้ของเครื่องยนต์ และกระบอกสูบ เป็นผลทำให้เกิดการสูญเสียกำลังของเครื่องยนต์ ทำให้เร่งไม่ขึ้น รอบเดินเบา

 

สะดุด สตาร์ทติดยาก และเป็นต้นเหตุของปัญหาอื่น ๆ ตามมาความร้อนจากการทิ้งให้เย็นตัวลงเอง เกิดจากเมื่อดับเครื่องยนต์ จะทำให้ปั๊มน้ำมันเชื้อ

 

เพลิงที่ส่งน้ำมันเชื้อเพลิง ให้ไหลเวียนในระบบรอบเครื่องยนต์ หยุดการทำงานไปด้วย และพัดลมระบายความร้อน และระบบหล่อเย็นในเครื่องยนต์

 

(หม้อน้ำ) ไม่ทำงานอีกต่อไป ซึ่งทำให้ทันทีที่ดับเครื่องยนต์ความร้อนแห้งจากเครื่องยนต์จะอิ่มตัวอยู่ในเครื่องยนต์ เมื่อไม่มีการ ระบายความร้อน

 

ออกของระบบหล่อเย็นอุณหภูมิจะเพิ่มสูงขึ้นอย่างมากชั่วขณะหนึ่ง ก่อนที่จะกระจายออกไปในบรรยากาศโดยรอบ  

 

 

สาเหตุของสารก่อตัวในหัวฉีดน้ำมันเชื้อเพลิง :

  ความสกปรกของหัวฉีดน้ำมันน้ำมันเชื้อเพลิง ดีเซล และเบนซิน มาจากส่วนผสมของน้ำมันเชื้อเพลิง สารก่อตัวสกปรกหลัก ๆ ที่พบคือคราบยางเหนียว และคราบเขม่า ผลกระทบของส่วนผสมในน้ำมันเชื้อเพลิงนั้นเกิดจากOlefins และDiolefins ในน้ำมันเชื้อเพลิง ที่ก่อตัวขึ้นที่อุณหภูมิระหว่าง 90 - 105 OC ( 162 - 221 OF ) ซึ่งเป็นช่วงที่เกิดขึ้นระหว่างการทิ้งให้เย็นตัวลงเอง ปัญหานี้สามารถเกิดขึ้นได้แม้กระทั่งในรถใหม่ที่เพิ่งใช้งานไปได้เพียง3,000 ถึง 7,000 ไมล์ ( 4,800 ถึง 11,000 กิโลเมตร )

 

 

ข้อบกพร่องของหัวฉีดน้ำมันเชื้อเพลิง ที่ใช้กันอยู่:

  หัวฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงที่ท่อไอดี ( Port – type ) นิยมใช้กันอย่างแพร่หลายทั่วโลก ประมาณว่า 90% ของรถยนต์รุ่นใหม่ในสหรัฐอเมริกา และ 65 %  ของรถยนต์รุ่นใหม่ในยุโรปที่ใช้เครื่องยนต์ที่มีหัวฉีดชนิดนี้ สำหรับรถญี่ปุ่นจะขึ้นอยู่กับภูมิภาคของการส่งออกซึ่งปรับเปลี่ยนไปตาม ตลาดที่แตกต่างกัน แต่ก็ยังมีแนวโน้มที่ไม่แตกต่างกับเครื่องยนต์ที่ใช้ระบบหัวฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงส่วนใหญ่ เมื่อพิจารณาถึงชนิดของหัวฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงแล้ว ชนิดของหัวฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงที่ฉีดด้วยแรงกลจะมีความแข็งแรงทนทานกว่า และมีแนวโน้มต่อการอุดตันของหัวฉีดน้อยกว่าหัวฉีดน้ำมันเชื้อเพลิง ชนิดอิเล็กทรอนิกส์มัลติพอยท์ที่มีความอ่อนแอกว่า

 

 

OMEGA 992 “เพาเวอร์เจ็ท” :

  ที่รูของหัวฉีดน้ำมันเชื้อเพลิง ที่มีการก่อตัวรอบ ๆ ครีบของหัวฉีดน้ำมันเชื้อเพลิง อัตราการไหลอัดของ OMEGA 992 “เพาเวอร์เจ็ท” จะขับเอาสารก่อตัวออก และพาเข้าสู่ห้องเผาไหม้ของเครื่องยนต์ เพื่อให้เกิดการจุดระเบิด และเผาทิ้งเหลือไว้เพียง หัวฉีดน้ำมันเชื้อเพลิง ที่สะอาดหมดจด และมีขนาดของรูที่อยู่ในพิกัด จากการกำจัดสารก่อตัวออกทำให้หัวฉีดน้ำมันเชื้อเพลิง สามารถฉีดละอองน้ำมันน้ำมันเชื้อเพลิง ได้ตามขนาดที่ถูกต้อง และแม่นยำช่วยฟื้นฟูอัตราการเร่งของเครื่องยนต์ให้กลับมาเหมือนใหม่ได้อีกครั้ง

 

การใช้งาน:

  ขนาดการใช้ที่ถูกต้องจะช่วยให้ OMEGA 992 ใช้ได้ผลดีที่สุด OMEGA 992 เป็นสารเข้มข้นซึ่งการผสมในสัดส่วนที่ถูกต้องจะส่งผลต่อความประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงมากขึ้น

 

 

-รถยนต์ขนาดเล็กที่มีความจุน้ำมันน้ำมันเชื้อเพลิง ประมาณ 8 - 10 แกลลอน ( 30 - 38ลิตร )

 

½ ออนซ์ (15มิลลิลิตร ) เติมทุกครั้งที่เติมน้ำมันเชื้อเพลิง

 

-รถยนต์ขนาดกลางที่มีความจุน้ำมันน้ำมันเชื้อเพลิง ประมาณ 10 - 18 แกลลอน ( 38 - 70ลิตร )

 

1 ออนซ์ (30มิลลิลิตร ) เติมทุกครั้งที่เติมน้ำมันเชื้อเพลิง 

 

-รถยนต์ขนาดใหญ่ หรือ รถบรรทุกที่มีความจุน้ำมันน้ำมันเชื้อเพลิง มากกว่า 200แกลลอน ( 76 ลิตร ) ขึ้นไป

 

 

1 ออนซ์ (30มิลลิลิตร ) เติมในทุก ๆ 16แกลลอน ( 60ลิตร ) ของน้ำมันเชื้อเพลิง

 

 

OMEGA 992 เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้กับระบบหัวฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงของเครื่องยนต์ ทั้งเครื่องยนต์ ดีเซล และเบนซิน และทำให้การเผาไหม้น้ำมันเชื้อเพลิงดีขึ้นสะอาดขึ้น ( เครื่องยนต์ดีเซลทุกเครื่อง ใช้ระบบหัวฉีด )

 

 

OMEGA 992

 

รายละเอียด:

OMEGA 992 “เพาเวอร์ เจ็ท”  สารเพิ่มกำลังของหัวฉีดน้ำมันเชื้อเพลิง ที่ใช้เติมได้ทั้งในน้ำมันดีเซล และเบนซิน

ในรถยนต์ด้วยการเติมลงไปในถังแล้วเติมน้ำมันให้เต็ม มันถูกออกแบบ และผลิตมาเพื่อคืนสภาพของประสิทธิภาพ

ของหัวฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงอย่างรวดเร็วให้มีสมรรถนะสูงเหมือนใหม่ยิ่งไปกว่านั้น OMEGA 992 ยังช่วยควบคุมการ

เกิด “ไอน้ำกั้น ( Vapour Lock)” หรือ มีน้ำปนมาในระบบน้ำมันเชื้อเพลิง ที่เป็นสาเหตุของการสตาร์ทติดยาก และ

ในรอบเดินเบาเครื่องจะสั่น และการตอบสนองการเร่งที่เฉื่อย ( เร่งไม่ขึ้นอืด )

 

ประโยชน์เพิ่มเติมของ OMEGA 992 คือเริ่มการทำงานตั้งแต่ถังน้ำมันเชื้อเพลิงโดยมีสารยับยั้งการเกิดออกซิเดชั่น

ที่จะช่วยปกป้องถังน้ำมันเชื้อเพลิง ท่อส่งน้ำมันเชื้อเพลิง ปั๊มน้ำมันเชื้อเพลิง หัวฉีดน้ำมันเชื้อเพลิง และชิ้นส่วนภาย

ในทั้งหมดของระบบหัวฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงของเครื่องยนต์จากการเกิดสนิม  ( จากความชื้น )

 

การทิ้งให้เย็นตัวลงเอง ( Soak Down ):

แม้ว่าหัวฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงจะถูกรักษาให้มีอุณหภูมิต่ำในขณะที่เครื่องยนต์ทำงานแต่ความร้อนจากการทิ้งให้เย็นตัวลง

เองจากการดับเครื่องยนต์จะทำให้เกิดการก่อตัวของตะกอนน้ำมันเชื้อเพลิงขึ้นในหัวฉีดน้ำมันเชื้อเพลิง สารก่อตัวเหล่า

นี้จะขัดขวาง และลดการแตกตัวของละอองที่เหมาะสมของน้ำมันเชื้อเพลิงที่เข้าสู่ห้องเผาไหม้ของเครื่องยนต์ และ

กระบอกสูบ เป็นผลทำให้เกิดการสูญเสียกำลังของเครื่องยนต์ ทำให้เร่งไม่ขึ้น รอบเดินเบาสะดุด สตาร์ทติดยาก และ

เป็นต้นเหตุของปัญหาอื่น ๆ ตามมา

 

ความร้อนจากการทิ้งให้เย็นตัวลงเอง เกิดจากเมื่อดับเครื่องยนต์ จะทำให้ปั๊มน้ำมันน้ำมันเชื้อเพลิงที่ส่งน้ำมันน้ำมัน

เชื้อเพลิง ให้ไหลเวียนในระบบรอบเครื่องยนต์ หยุดการทำงานไปด้วย และพัดลมระบายความร้อน และระบบหล่อเย็น

ในเครื่องยนต์ ( หม้อน้ำ ) ไม่ทำงานอีกต่อไป ซึ่งทำให้ทันทีที่ดับเครื่องยนต์ความร้อนแห้งจากเครื่องยนต์จะอิ่มตัวอยู่

ในเครื่องยนต์ เมื่อไม่มีการ ระบายความร้อนออกของระบบหล่อเย็นอุณหภูมิจะเพิ่มสูงขึ้นอย่างมากชั่วขณะหนึ่ง ก่อนที่

จะกระจายออกไปในบรรยากาศโดยรอบ

 

สาเหตุของสารก่อตัวในหัวฉีดน้ำมันเชื้อเพลิง :

ความสกปรกของหัวฉีดน้ำมันน้ำมันเชื้อเพลิง ดีเซล และเบนซิน มาจากส่วนผสมของน้ำมันเชื้อเพลิง สารก่อตัวสกปรก

หลัก ๆ ที่พบคือคราบยางเหนียว และคราบเขม่า ผลกระทบของส่วนผสมในน้ำมันเชื้อเพลิงนั้นเกิดจาก Olefins และ

Diolefins ในน้ำมันเชื้อเพลิง ที่ก่อตัวขึ้นที่อุณหภูมิระหว่าง 90 - 105 OC ( 162 - 221 OF ) ซึ่งเป็นช่วงที่เกิดขึ้นระหว่าง

การทิ้งให้เย็นตัวลงเอง ปัญหานี้สามารถเกิดขึ้นได้แม้กระทั่งในรถใหม่ที่เพิ่งใช้งานไปได้เพียง 3,000 ถึง 7,000 ไมล์

( 4,800 ถึง 11,000 กิโลเมตร )

 

 

 

 

ข้อบกพร่องของหัวฉีดน้ำมันเชื้อเพลิง ที่ใช้กันอยู่:

หัวฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงที่ท่อไอดี ( Port – type ) นิยมใช้กันอย่างแพร่หลายทั่วโลก ประมาณว่า 90% ของรถยนต์รุ่นใหม่

ในสหรัฐอเมริกา และ 65 %  ของรถยนต์รุ่นใหม่ในยุโรปที่ใช้เครื่องยนต์ที่มีหัวฉีดชนิดนี้ สำหรับรถญี่ปุ่นจะขึ้นอยู่กับ

ภูมิภาคของการส่งออกซึ่งปรับเปลี่ยนไปตาม ตลาดที่แตกต่างกัน แต่ก็ยังมีแนวโน้มที่ไม่แตกต่างกับเครื่องยนต์ที่ใช้

ระบบหัวฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงส่วนใหญ่

 

เมื่อพิจารณาถึงชนิดของหัวฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงแล้ว ชนิดของหัวฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงที่ฉีดด้วยแรงกลจะมีความแข็งแรง

ทนทานกว่า และมีแนวโน้มต่อการอุดตันของหัวฉีดน้อยกว่าหัวฉีดน้ำมันเชื้อเพลิง ชนิดอิเล็กทรอนิกส์มัลติพอยท์ที่มี

ความอ่อนแอกว่า

 

OMEGA 992 “เพาเวอร์เจ็ท”:

ที่รูของหัวฉีดน้ำมันเชื้อเพลิง ที่มีการก่อตัวรอบ ๆ ครีบของหัวฉีดน้ำมันเชื้อเพลิง อัตราการไหลอัดของ OMEGA 992

“เพาเวอร์เจ็ท” จะขับเอาสารก่อตัวออก และพาเข้าสู่ห้องเผาไหม้ของเครื่องยนต์ เพื่อให้เกิดการจุดระเบิด และเผาทิ้ง

เหลือไว้เพียง หัวฉีดน้ำมันเชื้อเพลิง ที่สะอาดหมดจด และมีขนาดของรูที่อยู่ในพิกัด จากการกำจัดสารก่อตัวออกทำให้

หัวฉีดน้ำมันเชื้อเพลิง สามารถฉีดละอองน้ำมันน้ำมันเชื้อเพลิง ได้ตามขนาดที่ถูกต้อง และแม่นยำช่วยฟื้นฟูอัตราการ

เร่งของเครื่องยนต์ให้กลับมาเหมือนใหม่ได้อีกครั้ง

 

การใช้งาน:

ขนาดการใช้ที่ถูกต้องจะช่วยให้ OMEGA 992 ใช้ได้ผลดีที่สุด OMEGA 992เป็นสารเข้มข้นซึ่งการผสมในสัดส่วนที่

ถูกต้องจะส่งผลต่อความประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงมากขึ้น

 

 

 

OMEGA 992 เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้กับระบบหัวฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงของเครื่องยนต์ ทั้งเครื่องยนต์ ดีเซล

และเบนซิน และทำให้การเผาไหม้น้ำมันเชื้อเพลิงดีขึ้นสะอาดขึ้น ( เครื่องยนต์ดีเซลทุกเครื่อง ใช้ระบบหัวฉีด )

 

 

การใช้น้ำมันหล่อลื่นในงานอุตสาหกรรม

 

แบริ่ง และเฟืองในโรงงานอุตสาหกรรมมีสัดส่วนความต้องการหล่อลื่นมากถึง 90% แบริ่ง ยังสามารถแบ่งออก

ได้เช่นแบริ่งธรรมดา และแบริ่งต้านแรงเสียดทาน เช่นเดียวกัน เฟืองยังสามารถแบ่งออกได้อีกหลายประเภทเช่น

เฟืองตรง เฟืองเฉียงเดียว เฟืองก้างปลา เฟืองหนอน หรือเฟืองไฮปอยด์ แต่ละชนิดที่แตกต่างกันออกไปของแบริ่ง

และเฟือง จะทำให้มีแนวโน้มในการหล่อลื่นที่หลากหลายเฉพาะตัว เพื่อคุณภาพสูงสุดในการหล่อลื่น

 

หลังจากที่พิจารณาความสามารถของเฟือง และแบริ่ง ที่จะกล่าวถึงนี้อย่างถี่ถ้วนแล้ว จะทำให้สามารถเลือกรายการของ

สารหล่อลื่นที่เหมาะสม และน้อยรายการที่สุด ลักษณะการสัมผัสกันของผิวต่อผิวในแบริ่ง หรือ เฟืองแต่ละชนิด ซึ่งให้

ข้อมูลสำหรับการเลือกใช้รายการสารหล่อลื่นเหล่านี้ร่วมกัน

 

แบริ่งธรรมดา ( Plain  Bearings ):

ประกอบด้วยผิวสองผิวที่เลื่อนไถลต่อกัน แบริ่งธรรมดาโดยทั่วไปจะถูกหล่อลื่นด้วยน้ำมันที่ถูกเลือกให้เหมาะสม กับ

 

ทั้งความเร็ว และน้ำหนักภาระของแบริ่ง

 

 

น้ำมันความหนืดสูงมักจะถูกใช้เสมอ เมื่อต้องมีการหล่อลื่นเพียงครั้งเดียวโดยใช้น้ำมันน้อย หล่อลื่นตั้งแต่เริ่มต้น และหล่อลื่นในขณะที่มีภาระหนัก และเมื่ออุณหภูมิทำงานสูงขึ้น และขึ้นอยู่กับอุณหภูมิภายนอกด้วย การเลือกใช้

 

น้ำมันหล่อลื่นจะได้ผลกระทบดังนี้

 

 

 

การใช้จารบีสำหรับหล่อลื่นแบริ่งธรรมดาจะใช้เมื่อ

•     ความเร็วต่ำ ภาระหนัก และอุณหภูมิสูง

•     การทำงานที่เป็นจังหวะหรือ มีขนาดช่องว่างกว้าง

•     ในตำแหน่งที่เข้าถึงไม่ได้

•     ถูกปนเปื้อนจากน้ำ และฝุ่นได้ง่าย

•     ต้องจำไว้เสมอว่าความหนืดของน้ำมันหล่อลื่น และสารเติมแต่งที่ไม่ทำการกัดกร่อนในน้ำมันหล่อลื่น

 

       มีความสำคัญต่ออายุการใช้งานของแบริ่ง ธรรมดาเป็นอย่างมาก

 

แบริ่งชนิดต้านทานแรงเสียดทาน (Anti - Frivtion Bearings):

แบริ่งชนิดนี้จะประกอบด้วย ลูกบอล แท่งกลมตรง แท่งกลมเรียว บอลกันรุน และลูกกลิ้งเส้นโดยใช้กับน้ำมันหล่อลื่น

 

ที่ถูกเลือกให้สอดคล้องกับเส้นผ่านศูนย์กลางภายในของแบริ่ง และความเร็วในการหมุน และอุณหภูมิที่ใช้งาน

 

 

อย่างไรก็ตาม การหล่อลื่นด้วยจารบี แนะนำให้ใช้ชนิดที่ออกแบบมาให้ใช้งานได้หลากหลาย เนื่องจากการใช้จารบี

ของ OMEGA สมรรถนะสูงเพียงชนิดเดียวก็สามารถใช้งานได้กับทุกขนาดของแบริ่ง และในทุกอุณหภูมิระหว่าง

จาก - 20 OF  ถึง  300 OF  ( - 29 OC ถึง 140 OC ) จารบีคุณภาพสูงOMEGA 77 ช่วยลดการจัดเก็บสต๊อกสินค้าคงคลัง

ลง การหยุดซ่อม และการซ่อมบำรุงจะลดลงอย่างมหาศาล

 

อายุใช้งานสูงสุดของแบริ่งสามารถใช้ได้จาก สารหล่อลื่นที่สะอาดในแบริ่งที่สะอาด การออกแบบแบริ่งนั้น

 

จะช่วยเพิ่มความต้านทานต่อแรงรุน, และอุณหภูมิสูงจัด, แรงดัน และการกระจายตัวของของเหลวกัดกร่อน

 

 

 

 

 

 

เฟืองตรง (Spur Gears):

เฟืองชนิดนี้มีฟันที่ดัดตรงขวางตลอดหน้าเฟือง มีช่องว่างระหว่างเฟืองที่ขนานไปกับเพลา เป็นผลทำให้การเลื่อน

และการหมุนเข้า และออกระหว่างแต่ละฟันนั้น จะทำให้ฟิล์มน้ำมันเข้ามาแทรกในช่องว่าง

 

ดังนั้นเฟืองตรงจึงสามารถหล่อลื่นได้โดยใช้น้ำมันที่ไม่จำเป็นต้องมีสารปกป้อง และราคาไม่แพงน้ำมันหล่อลื่นเกียร์

OMEGA 670 ยังใช้ได้อเนกประสงค์มากกว่าน้ำมันแร่

 

 

 

 

เฟืองเฉียงด้านเดียว ( Single - Helical  Gears ):

เฟืองชนิดนี้มีเส้นผ่านศูนย์กลางของแกนเพลาที่ขนานกัน โดยมีฟันเฟืองที่มากกว่า และทำให้ฟันเฟืองสัมผัสกัน

มากกว่า 1 ฟัน ตลอดเวลา เฟืองชนิดนี้อาจเป็นสาเหตุของการเลื่อนเนื่องจากแรงรุนในแนวแกน สามารถใช้

สารหล่อลื่นชนิดเดียวกับที่ใช้ในเฟืองตรงน้ำมันหล่อลื่นเกียร์ OMEGA 670 แต่ก็ยังขึ้นอยู่กับการใช้งานด้วย

ในบางครั้งที่ต้องใช้งานที่แรงกดดันสูงมาก ( EP: Extreme Pressure ) มักจะใช้น้ำมันหล่อลื่นเกียร์ OMEGA 690

 

เฟืองก้างปลา ( Herring - bone Gears ):

เฟืองก้างปลามีลักษณะของฟันเฟืองจะเป็นรูปตัววี ( V ) เฟืองชนิดนี้จะให้แรงรุนที่สมดุลกันทั้งสองข้าง มีเพียง

การเลื่อนตัว และการสัมผัสเข้า - ออก เท่านั้นที่เกิดขึ้นในเฟืองก้างปลา

 

ในกรณีนี้ควรใช้น้ำมันหล่อลื่นเกียร์ OMEGA 670

 

 

 

 

เฟืองดอกจอก ( Bevel Gears ):

เฟืองดอกจอกมีเส้นผ่านศูนย์กลางของฟันเฟืองที่ตัดกัน และมักจะมีฟันเฟืองที่ผสมผสานกันของเฟืองก้างปลา และ

เฟืองดอกจอกสามารถหล่อลื่นได้โดยใช้น้ำมันหล่อลื่นเกียร์ OMEGA 670

 

เฟืองหนอน ( Worm  Gears ):

เฟืองชนิดนี้มักจะถูกใช้เสมอ เมื่อเส้นศูนย์กลางของเพลาทำมุมตั้งฉากกัน เฟืองหนอนจะประกอบด้วยเฟืองขับ

ขนาดเล็ก ( ตัวหนอน ) และเฟืองตามขนาดใหญ่ ซึ่งมีลายเกลียวตัวหนอนที่ขอบรอบนอกของเฟือง

 

การจัดวางเฟืองเช่นนี้ทำให้ความเร็วของระบบการขับลดลงอย่างมาก เป็นผลทำให้มีกำลังบิดเพิ่มขึ้น

ซึ่งเป็นผลดีมากหากการเลื่อนตัวที่บริเวณผิวสัมผัสกันของฟันเฟืองจะถูกแทรกด้วยการไหลตัวของน้ำมันหล่อลื่น

 

สำหรับเฟืองหนอนควรใช้น้ำมันหล่อลื่นเกียร์ OMEGA 680 เพื่อสมรรถนะในการจำกัดการลื่นไถล

ซึ่งเป็นสารหล่อลื่นที่ดีที่สุด

 

 

 

เฟืองเกียร์ไฮปอยด์ ( Hypoid  Gears ):

มีลักษณะเดียวกับเฟืองหนอน แต่สายกัดเกลียวหนอนจะอยู่ที่ด้านข้างของเฟือง เฟืองชนิดนี้ก็ยังคงมีแนวโน้มที่

จะขับเอาฟิล์มของน้ำมันหล่อลื่นออกไป ทำให้การปกป้อง และหล่อลื่นทำได้ยาก จำเป็นอย่างมากที่เฟืองไฮปอยด์

 

จะต้องหล่อลื่นด้วยน้ำมันหล่อลื่นเกียร์ OMEGA 690 น้ำมันเกียร์ที่เหมาะสำหรับงานหนัก